สมชนะ กังวารจิตต์ นักออกแบบมือรางวัลระดับโลก 

ผู้ก่อตั้ง Prompt Design พูดในหัวข้อ “Thai Packaging Trends 2020 ส่องเทรนด์บรรจุภัณฑ์ไทย 2562” ถึง 7 เทรนด์หลักสำคัญที่สามารถนำมาปรับปรุงประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจแก่ SME เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้

 

1.Mass Customization Packaging
สร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นได้แม้ขายในตลาดแมส ซึ่งเทรนด์นี้ในเมืองนอกมีมาตั้งแต่ปี 2013-2014 แล้ว เช่น Budweiser ที่ทำกระป๋องรุ่น Limited mass-customized cans ในงาน Mad Decent Block Party หรือ แม้แต่ Nutella ที่ผลิตลายออกมา 7 ล้านลายที่ไม่เหมือนกันในประเทศอิตาลี แต่ในไทยเราก็จะเห็น อย่างเช่น กระป๋องโค้กรุ่นชื่อคน หรือแม้กระทั่ง น้ำดื่ม Sprinkle ทั้งหมดนี้สามารถเพิ่มสีสันและยอดขายได้มากเลยทีเดียว โดยการทำทั้งหมดนี้ไม่ต้องอิงกระบวนการอุตสาหกรรมเต็มรูปแบบทั้งหมดก็ได้ สามารถพลิกแพลงบางขั้นตอนเพื่อใช้แรงงานเข้ามาสร้างสรรค์ได้ และยังถือเป็นเทรนด์ที่ยังใช้งานได้อยู่

 

2.Be Simple, Bold and Clear
สินค้าในตลาดมีการใช้สีสัน รูปภาพมากมาย จนบางครั้งทำให้ปนกันไปหมด ความเรียบง่าย น้อยแต่มาก สไตล์มินิมอล อาจสามารถช่วยความแตกต่าง และมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์ได้ ยกตัวอย่างเช่น “ไร่ไม่จน” แบรนด์น้ำอ้อย ที่สามารถออกแบบแบรนด์และแพ็กเกจจิ้งได้แตกต่าง ขวดออกแบบเหมือนปล้องอ้อย สามารถนำมาต่อกันให้เป็นลำปล้องอ้อยขึ้นมาได้ สร้างความน่าสนใจ สะดุดตาต่อผู้บริโภค 

 

3.Culture Story
การบอกเล่าเรื่องราวที่ชัดเจนเป็นกลยุทธ์ให้ SME สามารถต่อสู้กับยักษ์ใหญ่ได้ เพื่อสร้างความแตกต่าง แต่ต้องทำให้ชัดเจน และไปให้สุด ใช้ช่องทางออนไลน์เป็นการสื่อสารบอกเล่าเรื่องราวออกไป เพราะเรื่องราวของแต่ละแบรนด์นั้น ถือเป็นจุดแตกต่างชั้นดีเลยทีเดียว

 

4.Packaged Planet
ปัจจุบันแบรนด์ใหญ่ๆ หันมาเล่นมากขึ้น เทรนด์รักษ์โลก เป็นโอกาสให้ SME สามารถนำมาใช้ทำตลาด และประยุกต์ใช้กับแบรนด์ของตัวเองได้ แม้จะมีการนำมาเล่นกันมากขึ้น แต่ยังมีช่องว่างอยู่ ลองมองหาในตลาดของตัวเองดีๆ ถ้าทำได้ก่อน ยังไม่มีใครทำ แล้วตะโกนออกไป แบรนด์เราจะอยู่ในใจลูกค้า

 

5.New Experience
จากสินค้าธรรมดา ถ้าสามารถสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้ลูกค้าได้ ลูกค้าจะยิ่งจดจำเรา เช่น จากการขายสินค้าธรรมดา เราอาจออกแบบแพ็กเกจจิ้งให้ลูกค้าสามารถมีส่วนร่วมได้ เช่น การทำแพ็กเกจจิ้งของแบรนด์ไดมอนเกรนด์ในช่วงคริสมาสต์ที่สามารถนำมาต่อเป็นต้นคริสต์มาสได้ 

 

6.Collaboration
การจับมือ ทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างแบรดน์ยังคงเป็นอีกกลยุทธ์การตลาดที่สามารถนำมาใช้ได้ นอกจากจะทำให้แบรนด์ได้กระจายออกไปให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ยังอาจได้กลุ่มลูกค้าของแบรนด์บัดดี้ที่ทำร่วมกันได้ด้วย เรียกว่าเป็นการแลกเปลี่ยนลูกค้าซึ่งกันและกัน

 

7.Smart Packaging
วิธีการสุดท้าย ซึ่งในขณะนี้ในต่างประเทศมีการนำมาเล่นมาก แต่สำหรับในเมืองไทยยังไม่ค่อย และเป็นที่นิยมมากสักเท่าไหร่ เรียกง่ายๆ ว่ายังมาไม่ถึง แต่ในอนาคตข้างหน้าไม่แน่ เพราะเป็นอีกวิธีที่สร้างความน่าสนใจให้กับแบรนด์ได้ และมีการใช้กันมากในต่างประเทศแล้ว ประเทศไทยยังคงต้องรอจังหวะที่เหมาะสม

​

​

ขอบคุณงานสัมมนา “Next Trend 2020” โดยนิตยสาร SME Thailand ร่วมกับนิตยสาร SME Startup